ทำไมดอกกุหลาบถึงเป็นสัญลักษณ์ของความรัก
ทำไมดอกกุหลาบถึงเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ที่มาที่ไปเป็นยังไง ทำไมต้องดอกกุหลาบ ก่อนอื่นเลยเราคิดว่าเราโตมากับอิทธิพลของวัฒนธรรมตะวันตก เราเองในวัยประถมก็รู้จักเทศกาลวันแห่งความรักหรือวาเลนไทน์แล้วในตอนนั้น พากันติดสติกเกอร์หัวใจที่เสื้อตัวเองกับเสื้อเพื่อนกันยกใหญ่ ให้ช็อกโกแลตลูกอมรูปหัวใจกัน และยังเฝ้ารอคอยการวนมาของมันในทุกๆปี
ยิ่งพอเดินผ่านตลาดสดในวันนั้นๆ มุมขายดอกไม้สดพวงมาลัยต่างๆ ก็จะเห็นดอกกุหลาบวางขายกันเกลื่อนกลาด แถมราคาแพงขึ้นกว่าวันอื่นๆด้วย แต่เราก็ไม่ได้รู้ที่มาที่ไปอะไรนัก รู้แค่ว่าวันนี้วันวาเลนไทน์ก็ต้องให้ดอกกุหลาบกันแหละ ด้วยความที่ใกล้วาเลนไทน์ เทศกาลที่ดอกกุหลาบจะเป็นที่ต้องการในตลาดมากที่สุดในรอบ 365 วัน ก็เลยทำให้อยากรู้ว่า ทำไมเมื่อเกี่ยวกับความรักต้องเป็นดอกกุหลาบทุกที เลยอ่านคร่าวๆแล้วมาเล่าให้ฟังค่ะ
เรามาเริ่มที่ตำนานแรกของฝั่งตะวันตก ตำนานดอกกุหลาบที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือตำนานของเทพีวีนัส เทพีแห่งความรักและความงาม เรื่องก็คือเทพอดอนิสคนรักของวีนัสถูหมูป่าฆ่าตาย
วีนัสก็เกิดเศร้าโศกเสียใจอย่างหนักจึงร้องไห้ออกมา น้ำตาของวีนัสหยดลงปะปนกับเลือดของเทพอดอนิสที่พื้น และกลายเป็นดอกกุหลาบสีแดงงอกขึ้นมา
ถัดมาที่ตำนานที่สอง ตำนานจากกรีกโบราณ เป็นเรื่องความรักของเทพเซไฟรุสผู้มีความรักต่อเทพีฟลอรา แต่ฟลอร่าไม่สนใจอะไรเลยนอกจากมวลดอกไม้ เซไฟรุสจึงได้เปลี่ยนตัวเองเป็นดอกไม้สีแดงที่สวยที่สุด ดอกนั้นก็คือดอกกุหลาบ ฟลอราได้เห็นก็หลงรักดอกกุหลาบนี้ทันที เซไฟรุสจึงได้เป็นที่รักของเทพีฟลอราตลอดกาล ก็คือยอมที่จะเป็นดอกกุหลาบตลอดไปเพื่อถูกรักนั่นแหละ
แล้วก็ยังมีตำนานของเทพปกรณัมกรีกอีกเรื่องที่เล่าว่า คลอรีส เทพธิดาแห่งดอกไม้ ได้เปลี่นร่างของนางไม้ตนนึงให้เป็นดอกไม้สีแดง และยกให้เป็นราชินีของมวลดอกไม้ทั้งปวง ต่อมาเทพีแห่งความรักหรืออะโฟรไดท์ ได้ตั้งชื่อดอกไม้สีแดงนี้ว่า ROSE (ดอกกุหลาบ) และนำไปมอบเป็นของขวัญให้อีรอส ลูกชายของนางที่เป็นเทพแห่งความรัก เลยกลายเป็นดอกไม้ของเทพแห่งความรักไปทันที
หรือจะเป็นในวรรณคดีไทยอย่าง มัทนะพาธา ที่เล่าว่า นางฟ้ามัทนาถูกสาปให้กลายเป็นดอกกุหลาบเพราะไม่ตอบรับรักจากพระสุเทษณะ อันนี้ไม่ใช่ในแนวของการสมหวังใดๆเลย เพราะโดนสาปให้เป็น แต่ก็ยังเกี่ยวเนื่องกับความรักอยู่ดี รวมๆแล้วตำนานดอกกุหลาบมีหลายเรื่องกว่านี้มาก เล่าวันนี้ก็คงจะไม่หมด แต่ใดๆก็คือทุกเรื่องมันจะสะท้อนให้เห็นถึงความหมายของดอกกุหลาบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความงาม ความตาย ความปรารถนาต่างๆ
นอกเหนือจากตำนานแล้วก็น่าจะเป็นเรื่องราวที่เรามองเห็นรอบๆตัว อย่างเช่นงานแต่งงานที่มักจะเลือกใช้ดอกกุหลาบในการจัดงาน หรือพิธีเข้าหอต้องโรยกลีบดอกกุหลาบบนเตียง หรือใช้ดอกกุหลาบตกแต่งอะไรที่เกี่ยวกับความรักเสมอ เราต่างเห็นผ่านตากันมานานจนดอกกุหลาบคล้ายๆเป็นภาษาสากล และมีคนนิยามถึงความหมายของดอกกุหลาบกับความรักไว้อย่างมากมาย ทำให้ดอกกหุลาบเป็นตัวแทนของความรักที่ทั่วโลกเข้าใจและรับรู้ทั่วกัน
แต่พอวนมาถึงประวัติวันวาเลนไทน์หรือวันแห่งความรัก จริงๆแล้วดอกกุหลาบไม่ได้เกี่ยวอะไรกับวันวาเลนไทน์เลยค่ะ แต่ขึ้นชื่อว่ามันคือวันแห่งความรัก แน่นอนว่าต้องมีการแสดงออกถึงความรักกับคนรัก ดอกกุหลาบที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของความรักก็ถูกใช้เป็นตัวแทนในการสื่อความหมายถึงความรักมาอย่างสม่ำเสมอก็ถูกใช้ในวันนี้ด้วยเช่นกันค่ะ
การให้ดอกกุหลาบก็เป็นการแสดงออกถึงความรักของผู้ให้และผู้รับได้ เลือกสีเลือกความหมายให้ตรงกับที่เราต้องการจะสื่อ หรือต้องการจะบอกคนที่รัก และถ้าอยากให้ดอกกุหลาบคงความสวยอยู่เสมอ ให้เลือกเป็นดอกกุหลาบในโหลแก้วนะคะ เพราะทำจากดอกกุหลาบจริงที่นำมาผ่านกระบวนการทำให้ดอกกุหลาบสวยสดไม่เฉา และเก็บไว้ได้นานหลายปี
รวมถึงให้ความหมายดีๆที่ว่า ความรักของคุณกับคนที่คุณรักจะมั่นคงยาวนานไม่โรยรา เหมือนกุหลาบที่เป็นอมตะในโหลแก้วนี้ค่ะ